ท่ามกลางความไม่แน่นอนของโลกยุคปัจจุบัน จากกระแสโลกาภิวัตน์และการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว เกิดการแข่งขันอย่างไม่มีขีดจำกัด หลายธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด แม้แต่ผู้คนก็ยังต้องมีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไปซึ่งไม่มีใครสามารถคาดการณ์สิ่งต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ กล่าวได้ว่า ทุกคนกำลังตกอยู่ในโลกยุค VUCA หรือ VUCA World
“VUCA World” เป็นคำที่ถูกนำมาปรับใช้ในแวดวงธุรกิจซึ่งได้กลายเป็นความท้าทายของเจ้าของธุรกิจ หรือผู้นำองค์กรต่าง ๆ อย่างมากในการทำความเข้าใจสถานการณ์โลกที่เกิดขึ้น รวมถึงต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม การเมือง หรือสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน โดยคำว่า VUCA ย่อมาจากคำศัพท์ 4 คำ ดังนี้
1. Volatility หมายถึง ความผันผวน เกิดสถานการณ์ที่ยากต่อการคาดการณ์ ไม่สามารถควบคุมได้ อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว
2. Uncertainty หมายถึง ความไม่แน่นอน ซึ่งเกิดจากการไม่มีข้อมูล ทำให้ไม่กล้าที่จะตัดสินใจ
3. Complexity หมายถึง ความซับซ้อน ความซับซ้อนนี้จะเกิดมากขึ้นเรื่อย ๆ ในเชิงระบบ โดยมีสาเหตุมาจากการมีตัวแปรหลายตัวที่เชื่อมโยงกันและส่งผลกระทบต่อกัน
4. Ambiguity หมายถึง ความคลุมเครือ สถานการณ์มีความคลุมเครือ ไม่ชัดเจน ทำให้ไม่สามารถคาดเดาผลที่จะเกิดขึ้นได้
จากยุค VUCA World ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างตกอยู่ในสภาวะของความไม่แน่นอน ประกอบกับการเกิดขึ้นของสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่าเราทุกคนจำเป็นต้องมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา อนาคตเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ยาก เช่นเดียวกับการวางแผนอนาคตให้กับลูก เพราะอนาคตเต็มไปด้วยความคลุมเครือ ทำให้ไม่สามารถตั้งเป้าหมายในระยะยาวได้มากขนาดนั้น อาชีพหรือทักษะที่จำเป็นต่ออนาคตก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป ไม่ได้เป็นเหมือนรุ่นพ่อรุ่นแม่แต่ก่อนแล้ว การวางแผนจึงไม่ได้เป็นไปในลักษณะของการตีกรอบ แต่ควรปล่อยให้ลูกได้มีโอกาสทดลองและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอเพื่อให้ลูกสามารถเอาตัวรอดในโลกยุค VUCA ได้
สำหรับเด็กยุคใหม่ที่ต้องเกิดและเติบโตมาพบกับสภาวะความไม่แน่นอนเช่นนี้คงเป็นเรื่องยากในการเผชิญหน้าด้วยตนเอง เนื่องจากยังขาดประสบการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต ต่างกับรุ่นพ่อแม่ ที่พอจะรู้วิธีในการรับมือและปรับตัวให้ทันท่วงทีอยู่บ้าง ดังนั้น พ่อแม่ ผู้ปกครองจึงมีหน้าที่ในการชี้แนะแนวทางให้กับลูก สอนให้ลูกรู้จักมองการณ์ไกล วางแผนอนาคตในหลาย ๆ ทาง โดยเริ่มจากความผันผวนที่เกิดขึ้น เมื่อโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนยากที่จะคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ พ่อแม่ในฐานะผู้ที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากกว่าก็อาจจะสอนให้ลูกปรับวิธีคิด (mindset) ของตนเอง ให้เปิดกว้างมากขึ้น เพื่อเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและพร้อมสู้กับความไม่แน่นอนข้างหน้า ไม่ยึดติดกับความคิดหรือวิธีปฏิบัติเดิมเพียงอย่างเดียว และด้วยความไม่แน่นอนนี้เอง ทำให้เราไม่สามารถทราบได้เลยว่าในอนาคตข้างหน้าจะมีสิ่งไหนเปลี่ยนแปลงไปอีก ข้อมูลเก่าในอดีตอาจจะไม่สามารถช่วยเราวางแผนชีวิตระยะยาวได้อีกต่อไป พ่อแม่ผู้ปกครองจึงควรสนับสนุนให้ลูกได้มีโอกาสเพิ่มพูนความรู้และทักษะใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้ลูกสามารถนำทักษะอื่น ๆ นอกห้องเรียนที่มีไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์และเอาตัวรอดได้ ในส่วนของความซับซ้อนของสถานการณ์ต่าง ๆ ในสังคมที่เกิดขึ้น ซึ่งมักจะไม่สามารถตัดสินใจแก้ไขปัญหาได้ตั้งแต่ครั้งแรก เราจึงควรปล่อยให้ลูกได้ลองเผชิญกับปัญหาและหาหนทางในการแก้ไขด้วยตนเอง โดยพ่อแม่จะทำหน้าที่คอยดูอยู่ห่าง ๆ เพื่อที่วันหนึ่ง พวกเขาจะกล้าคิด ตัดสินใจ และเผชิญหน้ากับปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างไม่รู้สึกหวาดกลัว เพราะเขาเคยได้ลองผิดลองถูกมาบ้างแล้ว ตลอดจนนำไปสู่การรู้จักปรับตัวในทุก ๆ ด้านเพื่อรองรับความคลุมเครือของทางออกของปัญหาที่ไม่มีวิธีที่ชัดเจนอีกต่อไป
การเพิ่มทักษะจำเป็นสำหรับเตรียมความพร้อมในการรับมือกับโลกที่ผันผวนจึงเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ ทักษะด้านเทคโนโลยี ทักษะการเป็นผู้นำได้ด้วยตนเอง และทักษะการมีปฏิสัมพันธ์หรือสื่อสารกับผู้อื่น โดยทักษะต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ได้อยู่เพียงแต่ในห้องเรียน ดังนั้น พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรสร้างเสริมประสบการณ์ให้ลูกได้เรียนรู้จากโลกภายนอกด้วยเช่นกัน และหนึ่งหนทางที่จะนำไปสู่การได้รับโอกาสใหม่ ๆ ในการเรียนรู้ก็คือ ภาษา ภาษาถือเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการเปิดประตูสู่โลกอนาคต โดยเฉพาะหากเราเก่งภาษาอังกฤษก็จะทำให้เรามีโอกาสเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้มากขึ้นอันนำไปสู่การค้นหาในสิ่งที่ตนเองสนใจได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเด็กจะสามารถเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ดีในช่วงวัย 2-7 ปี เนื่องจากเป็นช่วงที่สมองจะเรียนรู้ภาษาได้ไวตามธรรมชาติ พ่อแม่ ผู้ปกครองจึงควรส่งเสริมให้ลูกได้เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ยังเล็กเพื่อนำไปใช้ต่อยอดในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดจนสามารถเข้าใจและรับมือกับโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเท่าทัน ข้อความข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของงานเสวนา TK Park x Edsy: เตรียมพร้อมเด็กไทยในวันที่โลกเปลี่ยน ภายในงานยังมีหัวข้อเสวนาและมุมมองอื่น ๆ ที่น่าสนใจจากท่านวิทยากร สามารถรับชมได้ทางวิด๊โอด้านล่างนี้ได้เลย
โดย Edsy มีคลาสเรียนภาษาอังกฤษสนุก ๆ ภายใต้หัวข้อที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความสนใจของน้อง ๆ หนู ๆ วัย 5-15 ปี ด้วยการเรียนภาษาอังกฤษในบรรยากาศที่เหมือนกับโรงเรียนนานาชาติ เช่น “How to Become a YouTuber” หรือ “Exploring Pokemon’s World” ดังนั้น การเรียนภาษาอังกฤษจะไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่ออีกต่อไป เด็ก ๆ จะได้ทั้งความรู้และความสนุกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มาเตรียมตัวให้พร้อมต่อ VUCA World ไปด้วยกันนะคะ หากสนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และดูรายชื่อคลาสสนุกๆ ของเราได้ที่ เว็บไซต์ https://www.edsy.co/
Sources